เปิดประวัติ เจี๊ยบ - อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล จากวีรชนคนเสื้อแดง สู่นักการเมืองจากก้าวไกล

เพิ่งจะมีข่าวของ เจี๊ยบ อมรัตน์ ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าเธอนั้นได้บุกไปยังบ้านพักและที่ทำงานของคู่กรณีที่คอยโพสต์เหน็บแนมเธออยู่เสมอบนโซเชียลมีเดีย ทำให้เธอนั้นรู้สึกทนไม่ได้และไม่อยากจะใช้กฎหมายที่ดูจะเป็นเรื่องใหญ่เกินไปมาเป็นเครื่องมือในการจัดการสิ่งเหล่านี้ แต่การกระทำเหล่านั้นที่เหมือนจะเป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล กลับกลายเป็นว่าชาวเน็ตมองว่านั่นเหมือนเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวและสิทธิที่คู่กรณีควรจะปกป้องไว้ได้ จึงเกิดข้อถกเถียงกันต่าง ๆ นานาว่าเป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่ ไม่รู้เหมือนกว่าข้อยุติของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร วันนี้เราเลยจะพามาทำความรู้จักกับเธอคนนี้ที่ได้รับสมญานามว่าตึงตัวแห่งก้าวไกลกันมากขึ้นกว่าที่เคย

ประวัติ เจี๊ยบ – อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล มีชื่อเล่นว่า เจี๊ยบ อายุ 59 ปี เธอเป็นบุตรสาวของกำนันโต และเป็นพี่สาวคนโตของน้อง ๆ อีก 2 คน อมรัตน์จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร ที่เป็นหลักสูตรแบบก้าวหน้า ทำให้เธอเป็นเด็กที่ค่อนข้างดื้อและมักจะคิดนอกกรอบ ช่วงที่เรียนก็มักจะนำเพื่อน ๆ หนีเรียน เมื่อเธอสอบติด แต่แล้วเธอก็สอบติด ม.ศ. 4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก่อนจะได้เข้าไปศึกษาในคณะบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ยังเด็ก คุณพ่อของเธอนั้นทำธุรกิจรถเมล์ รวมถึงยังเคยเป็นนายกสมาคมรถร่วม บขส. ถึง 2 สมัย ตลอดการทำธุรกิจของที่บ้านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องคอยฝ่าฟันปัญหาต่าง ๆ มาอย่างมากมาย ทำให้เธอเติบโตมาแบบโลดโผน ได้พบเจอกับผู้คนมากมาย ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพ่อแม่มาอยู่เสมอ ทำให้เริ่มตั้งคำถามถึงความไม่เท่าเทียมมาตั้งแต่ตอนนั้น

อมรัตน์ชื่นชอบเรื่องการเมืองมาตั้งแต่ยังเด็ก ช่วงอายุ 10 – 11 ปี คุณพ่อของเธอก็พาไปดูสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีสถานที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางการเมืองมากมาย และด้วยความที่พ่อของเธอเป็นกำนัน ตลอดจนเธอยังเป็น Active Citizen ด้วย ทำให้เธอได้เห็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาถูกจับกุม ในช่วงที่เธอได้เข้าเรียนที่ธรรมศาสตร์ เธอได้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอาไว้ว่า ‘เหมือนปล่อยเสือเข้าในมหาวิทยาลัยที่มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว’ อมรัตน์ไม่เคยใส่ชุดนักศึกษา ไม่เคยเข้าเรียน เข้าสอบเพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังทำกิจกรรมต่าง ๆ ในมหาลัยอยู่ตลอด จนเมื่อปี 2552 – 2553 มีการเรียกร้องของคนเสื้อแดงให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นลากออก เธอจึงไปเข้าร่วมและเริ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ไม่ได้นิยามว่าตัวเองเป็นขี้ข้าทักษิณ แบบที่ใครหลายคนบอกกัน

ถึงที่ช่วงที่พรรคอนาคตใหม่เริ่มก่อร่างสร้างตัว อมรัตน์ถูกเชื้อเชิญจากแกนนำของพรรคให้เข้าร่วมสังกัด เธอตอบตกลง เพราะรู้สึกสนใจในแนวทางการทำงานของพรรคและตอบโจทย์ความศรัทธาทางการเมืองตัวเอง เริ่มแรกที่ได้ทำงาน เธอจะคอยอยู่เบื้องหลัง ค้นหาและคัดกรองผู้สมัคร จนท้ายที่สุด ปิยบุตร แสงกนกกุล ก็ได้ชวนให้เธอมาลงรับสมัครเลือกตั้งในแบบบัญชีรายชื่อ และได้รับการเลือกตั้งในที่สุด จนมาถึงปี 2566 อนาคตใหม่ถูกยุบ อมรัตน์ได้ย้ายมาทำงานที่พรรคก้าวไกล และประกาศว่าจะไม่ลงรับสมัครเลือกตั้งเป็น สส. โดยให้เหตุผลว่าไม่ชอบงานการเมืองแล้ว แต่เธอยังคงลงพื้นที่ช่วยหาเสียงและติดตาม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลอยู่ตลอด