เมื่อ ‘กระสือ’ อาจไม่ใช่แค่ปีศาจสาวที่น่ากลัว แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงความเป็นหญิง สังคม และการเมืองได้ Creator Team, 19/10/202319/10/2023 เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักผีกระสือเป็นอย่างดี ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนคงนึกภาพตามกันได้ ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิงที่มีแต่หัวกับไส้ ลอยไปลอยมา หรือมีแสงวาบ ๆ ออกมาจากอวัยวะของเธอในสีที่แตกต่างกันไปทั้งสีแดง สีเหลือง หรือสีเขียว มักจะลอยไปกินของสกปรก หรือของเน่าเสีย มี รกเด็ก เป็นอาหารที่โปรดปราน และด้วยความน่าสนใจนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ‘กระสือ’ ทั้งในแง่ปีศาจสาวที่ดุร้าย ไปจนถึงการเชื่อมโยงเข้ากับเรื่องสังคม การเมือง และความเป็นใหญ่ ในเรื่องเราที่เป็นตำนานนี้ดูเหมือนจะมีอะไรที่กำลังโดนกดขี่อยู่ ทำความรู้จักกับ กระสือ ตามตำนานที่บอกเล่ากันต่อมา ตามเรื่องเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ผีกระสือ คือผีที่มีชีวิตในช่วงกลางวันเป็นไปตามปกติเหมือนคนทั่วไป ส่วนมากก็อยู่ปะปนกับมนุษย์แทบแยกไม่ออก แต่พอตกดึกก็จะถอดหัวกับไส้ออกจากร่างไปหากิน มีแสงไฟสีเขียวลอยไปมาในยามค่ำคืน ของกินส่วนมากก็จะเป็นสิ่งปฏิกูล ของเน่าเสีย หรือสิ่งสปกรก ของที่โปรดอย่างมากก็จะเป็นรกเด็ก หากบ้านไหนที่มีหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด ชาวบ้านเชื่อว่าจะต้องสีกระสือลอยไปที่นั่นแน่นอน จึงมักจะเอาไม้ไผ่ปลายแหลมไปปักล้อมบ้านไว้ ส่วนเรื่องของการสืบทอดนั้นว่ากันว่า ผีกระสือจะสืบทอดด้วยการให้เป้าหมายกินน้ำลายตัวเอง คน ๆ นั้นก็จะค่อย ๆ ซึมซับจิตวิญญาณของผีกระสือเข้าไปทีละเล็กละน้อย จนกลายเป็นผีเต็มตัวในที่สุด ไม่ใช่แค่เรื่องราวตามตำนานในบ้านเรา แต่ยังมีเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในเรื่องเล่าของประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง มาเลียเซีย ด้วย ในประเทศนั้นก็มีผีกระสือเช่นกัน เพียงแต่จะเรียกว่า ฮันตูปินังกาลัน ซึ่งเป็นตำนานของหญิงผู้เป็นแม่ได้หยิบน้ำมันมนต์มาทาไว้รอบคอ จากนั้นหัวของเธอก็แยกออกจากตัวโดยที่มีตับไตไส้พุงติดออกมาด้วย ตรงอวัยวะก็จะมีแสงสีเหลือง และมีเสียงชู่ ๆ เพื่อเข้าไล่สัตว์ที่มาเข้าใกล้ ความเป็นหญิงถูกผูกติดอยู่กับผีสาง แต่ก่อนนั้น สังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อุษาคเนย์ จะเป็นสังคมที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ มีบทบาทมากกว่าผู้ชาย และมักจะใช้เรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับผีมาปกครองชาวบ้าน เรื่องราวส่วนมากก็จะแฝงไปด้วยแง่คิด ศีลธรรมอันดี และการรักษาระเบียบของสังคม แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป สังคมถูกเปลี่ยนแปลงและพัฒนาจนกลายเป็นสังคมที่ชายเป็นใหญ่ เนื่องจากกษัตริย์กลายเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจ เพราะกษัตริย์ส่วนมากที่ขึ้นครองราชย์ต้องเป็นเพศชาย ประกอบกับเป็นช่วงที่ศาสนาพุทธได้เข้ามามีบทบาทและมีสถานะที่เพิ่มมากขึ้น ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องผีจึงถูกลดความสำคัญลง อีกทั้งยังมีข้อมูลระบุเพิ่มเติมว่า การปฏิรูประบบศักดินาในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ช่วยกระตุ้นให้สังคมพัฒนาไปเป็นแบบ ปิตาธิปไตย เกิดการเชื่อมต่อกันของพื้นที่และผลิตความหมายเพื่อรองรับอำนาจของผู้ชาย หนึ่งในนั้นคือ วัด ที่ชนชั้นสูงที่เป็นชายเท่านั้นจึงจะได้รับการศึกษา และผู้ชายเท่านั้นจะสามารถบวชเรียนได้ ถัดจากนั้นแนวคิดหลักของสังคมก็ได้สรา้งให้ผีมีภาพลักษณ์ที่ดูเกรี้ยวกราด ไม่มีเหตุผล เต็มไปด้วยการใช้อารมณ์ ซึ่งผู้ที่จะสามารถปราบผีผู้หญิงเหล่านี้ได้ก็คือ พระ หรือ หมอผี ที่เป็นผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงที่น่ากลัวถูกสะท้อนออกมาจากผีกระสือ หากใครที่ได้ติดตาม Pop Content ในบ้านเราก็จะเห็นได้ว่ามีการผลิตเนื้อหาที่เกี่ยวกับผีผู้หญิงออกมาซ้ำ ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ผีกระสือ แม่นากพระขโนง หรือแม้แต่ผีปอบ ซึ่งนักวิชาการกลุ่มเฟมินิสต์มีความคิดว่า การทำแบบนั้นอาจจะทำให้มองภาพของปีศาจผู้หญิงมีความน่ากลัว สกปรก น่ารังเกียจ น่าขยะแขยง ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดและของสกปครก ซึ่งอาจทำให้เกิดการเชื่อมโยงภาพลักษณ์ไปยังความเป็นธรรมชาติอื่น ๆ ของผู้หญิงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ และความเป็นแม่ ที่ถูกแนวคิดแบบชายเป็นใหญ่มองว่าเป็นสิ่งสกปรก สลับซับซ้อน และน่ากลัว เช่นเดียวกับผีกระสือที่ถึงจะมีอำนาจ แต่ก็มีความน่าเกลียดน่ากลัว มีแต่หัวลอยไปมา และชอบกินของสกปรก เป็นต้น สภาพของสังคมไทยที่ถูกพัฒนาขึ้นจากความเชื่อเรื่องผี จนศาสนาพุทธเดินทางมาถึง เกิดเป็นสังคมสมัยใหม่ เป็นกลไกที่ตอกย้ำอย่างหนักแน่นว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอและมีปัญหา อ่านเพิ่มเติม : https://www.sanook.com/news/9074054/ เรื่องที่เกี่ยวข้อง เคลื่อนสรีระสังขาร หลวงปู่แขก กลับวัดสุนทรดิษฐ์ ส่องเลขอายุเกจิดังเมืองสองแคว ส่องประวัติ บิ๊กก้อง จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ผู้ก่อตั้ง ‘หนุมานกองปราบ’ ‘THEOS2’ ดาวเทียมสำรวจโลกฝีมือคนไทย ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จแล้ว จากสงครามอิสราเอลรอบล่าสุด มาทำความรู้จักกันว่า กลุ่มฮามาสคือใคร ข่าว Newsกระสือข่าวข่าวล่าสุดข่าววันนี้ปีศาจผีกระสือ